พุทธรักษา หัวหิน รีสอร์ต
สำหรับเรา พุทธรักษา หัวหิน รีสอร์ต (Putahracsa Hua Hin Resort) คือที่พักริมทะเลหัวหิน ที่เน้นความเรียบง่าย แต่สบาย ผ่อนคลาย สวยแบบปรุงแต่งไม่มากแต่อยากอยู่นานๆ เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาที่พักสำหรับ “พักผ่อน” ทิ้งร่าง ชาร์จแบต กินของอร่อย นอนหลับสบาย เราว่ามาที่นี่ได้อย่างที่ต้องการ ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร มาดูรีวิวกันค่ะ
ทำเลดี ริมทะเล กลางเมืองหัวหิน
พุทธรักษา หัวหิน รีสอร์ต ตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่ากลางเมืองหัวหิน ตัวรีสอร์ตแบ่งออกเป็นสองฝั่งมีถนนแนบเคหาสน์คั่นกลาง ฝั่งนึงไม่ติดทะเล เรียกว่า Sandside และฝั่ง Oceanside จะติดริมทะเล ทั้งสองฝั่งมีสระว่ายน้ำ มีห้องอาหาร ฝั่ง Sandside จะมีพื้นที่มากกว่า สระว่ายน้ำใหญ่กว่า มีห้องพัก 3 ประเภท ส่วนฝั่ง Oceanside จะเป็นห้องประเภทวิลล่า แต่ไม่ว่าจะพักห้องไหน ก็สามารถเดินข้ามไปใช้ facilities ได้ทั้งสองฝั่ง เราสองคนได้ไปพักที่ พุทธรักษา หัวหิน สองครั้ง และได้ลองพักทั้งสองฝั่ง รีวิวนี้จะพาชมแบบครบๆ เลย
Oceanside ใกล้ทะเลแค่เอื้อม
เริ่มกันที่ฝั่ง Oceanside ริมทะเล ฝั่งนี้พื้นที่จะเล็กกว่าอีกฝั่ง ที่จอดรถน้อยกว่า และมีห้องพักน้อยกว่า เป็นห้องแบบวิลล่าทั้งหมด ถ้าใครเข้าพักห้องวิลล่าก็สามารถจอดรถและเช็คอินที่ฝั่งนี้ได้เลย ไม่ต้องไปเช็คอินที่ล็อบบี้หลักอีกฝั่ง เราพักห้อง Oceanbed Pool Villa วันที่เราเข้าพักพนักงานไปทำเรื่องเช็คอินให้ที่ห้องพัก จะได้เป็นส่วนตัวไม่ต้องมารอกันที่ล็อบบี้ ขั้นตอนการเช็คอินก็จะมีให้ scan QR กรอกข้อมูลเพื่อเป็นประวัติในการเข้าพักที่หัวหิน เป็นมาตรการของทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
การออกแบบที่นี่ดูเรียบง่าย สไตล์มินิมอล น้อยแต่มาก คุมโทนขาวๆ เฟอร์นิเจอร์ไม้ แซมด้วยต้นไม้เขียวๆ ดูอบอุ่น ถ่ายรูปสวย แต่ในความเรียบง่ายก็เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย คือไม่ได้แค่สวย แต่ใช้งานได้จริงทุกอย่าง สิ่งที่เราชอบมากๆ ของที่นี่คือ lighting ห้องที่นี่แสงไฟจะค่อนข้างน้อย ไม่มีไฟบนเพดาน มีแต่ไฟโคมตามจุดต่างๆ เป็นการจัดไฟที่ให้บรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อนมาก ที่สำคัญคือเวลาลงไปนอนบนเตียงแล้ว จะไม่มีไฟดวงไหนส่องแยงตาเลย ใครเคยเจอประสบการณ์นอนโรงแรมแล้วเจอไฟแยงตาจะรู้ดี รีบลุกมาหาสวิชต์ปิดแทบไม่ทัน
Sandside นอนสบาย ถูกใจไม่แพ้กัน
ข้ามมาดูอีกฝั่งกันบ้าง ฝั่งนี้ถึงจะไกลทะเลสักนิดแต่เอาจริงๆ ก็แค่มีถนนคั่น เดินข้ามไปทะเลก็ไม่ได้ไกล แต่จุดเด่นของฝั่งนี้คือบริเวณที่กว้างกว่า มีพื้นที่ให้เดินเล่น นั่งเล่น นอนอาบแดด สระว่ายน้ำก็ใหญ่กว่า ส่วนห้องพักแน่นอนว่าห้องเล็กกว่าฝั่งวิลล่า แต่ก็ไม่ได้เล็กจนอึดอัด เพราะอย่างที่บอกว่าที่นี่ค่อนข้างจัดใช้สอยพื้นที่ในห้องพักได้อย่างลงตัว เราพักห้อง Silksand ซึ่งเป็นห้องที่เล็กที่สุดของฝั่งนี้ ก็ยังรู้สึกว่าสะดวกสบาย ถ้าเลือกพักชั้นล่างจะเดินถึงสระว่ายน้ำได้ใกล้ แต่ถ้าพักชั้นบนแบบเราก็จะมีระเบียงกว้างๆ ให้นั่งเล่นแบบที่รู้สึกว่าเป็นส่วนตัวกว่าชั้นล่าง จุดด้อยอย่างเดียวที่เรารู้สึกคือห้องน้ำเล็กมาก อ่างอาบน้ำก็เล็ก แต่ก็นอนแช่ bubble bath ที่ทางรีสอร์ตมีให้ฟินได้เหมือนกัน
คาเฟ่น่านั่ง อบอุ่นสมชื่อ
สำรวจห้องพักกับบรรยากาศรอบๆ ทั้งสองฝั่งแล้ว มาดูเรื่องอาหารการกินกันบ้าง ที่นี่มีห้องอาหารสองที่ คือ Ob-Oon Patisserie & Boulangerie อยู่ฝั่ง Sandside บรรยากาศแบบคาเฟ่สไตล์กลาสเฮ้าส์ เน้นโทนขาว น้ำตาล แซมเขียวด้วยต้นไม้ สวยเรียบแสงสวยถ่ายรูปขึ้น เมนูจะมีทั้งอาหารและขนม ที่เด่นเป็นพิเศษจะเป็นขนมอบนานาชนิด ที่อบใหม่ๆ หอมกรุ่นจากเตา รวมถึงเบเกอรี่ เค้ก มาการอง ก็มี รวมถึงชุด afternoon tea ที่ปรับเปลี่ยนเมนูขนมอยู่เรื่อยๆ เราไปกินมาสามครั้งแล้วมีเปลี่ยนตลอดเลย
ร้านอาหารริมทะเล อาหารอร่อย บรรยากาศดี
อีกหนึ่งห้องอาหารของที่นี่คือ Oceanside Beach Club & Restaurant อยู่ริมทะเล เปิดโล่งให้ได้สัมผัสบรรยากาศและรับลมทะเล ฟังเสียงคลื่นได้แบบเต็มๆ ที่นี่เสิร์ฟทั้งอาหารไทยและตะวันตก บอกตรงๆ เมื่อก่อนเราเคยรู้สึกว่าอาหารไทยที่นี่จะด้อยกว่าอาหารตะวันตก แต่ตอนนี้กลายเป็นติดใจแกงรัญจวน และแกงส้มที่นี่มากๆ ช่วงที่เราไปพัก ทางโรงแรมมีโปรโมชั่น Thai Set Lunch เซ็ตอาหารไทยมีเมนูให้เลือกอาหารได้สามอย่าง ขนมหนึ่งอย่าง เสิร์ฟพร้อมข้าวเปล่าสองที่ คือกินสองคนกำลังอิ่มพอดีในราคาเซ็ตละ 750 บาทเน็ต คุ้มมากๆ และที่สำคัญคืออร่อย
ส่วนใครที่ชอบแนวซีฟู้ด ปิ้งย่าง ก็มีเซ็ต Surf & Turf ยกมาทั้งบกและทะเล ชุดใหญ่ไฟกระพริบ ประกอบด้วย กุ้งลายเสือ ปลาหมึก หอยแมลงภู่ หอยหวาน ปลากะพงขาว พอร์คช็อพ ซี่โครงหมู อกไก่ สลัดผัก สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งเบคอน ทั้งหมดในราคา 1,900 บาทเน็ต
อาหารเช้าหลากหลาย
อาหารเช้าที่พุทธรักษา หัวหิน ปกติจะเป็นบุฟเฟต์ แต่ช่วงโควิดแบบนี้ก็จะเสิร์ฟเป็น a la carte แทน เมนูมีให้เลือกเยอะมาก คืออิ่มไม่แพ้กินบุฟเฟต์เลย ถ้าพักฝั่ง Sandside ก็จะกินอาหารเช้าที่ห้องอาหารอบอุ่น แต่ถ้าพักฝั่ง Oceanside สามารถเลือกได้ว่าจะกินที่ห้องอาหารอบอุ่น หรือที่ห้องอาหาร Oceanside หรือกินที่วิลล่า เราเลือกกินที่ห้องอาหาร Oceanside จะได้ชมวิวหัวหินยามเช้าไปด้วย
บรรยากาศดีๆ ที่พุทธรักษา หัวหิน ส่วนหนึ่งมาจากต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกไว้ในรีสอร์ต ใครที่ชอบต้นไหนอยากซื้อกลับไปปลูกที่บ้าน ที่นี่เขามีโครงการดีๆ ชื่อว่า โครงการธนาคารต้นไม้ มีต้นไม้ที่มีปลูกอยู่ในรีสอร์ตให้ลูกค้าเลือกซื้อได้ รายได้ทั้งหมดทางรีสอร์ตจะรวบรวมและสะสมทุนเพื่อมอบให้กับมูลนิธิและหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ น่ารักสุดๆ เลย
สรุป พักที่นี่เป็นยังไง?
ความรู้สึกจากการเข้าพักที่ พุทธรักษา หัวหิน รีสอร์ต เรามองว่าจุดเด่นของที่นี่คือความเรียบง่าย ที่ทำให้ที่นี่เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ การออกแบบตกแต่งที่ไม่หวือหวา ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่กลับรู้สึกสบายตา สบายใจ คือความมินิมอลที่น้อยแต่มากจริงๆ ห้องพัก เครื่องนอน เครื่องใช้ คุณภาพดี มี bubble bath ให้ในห้องพักทุกห้อง ในขณะที่บางแห่งจะมีให้เฉพาะห้อง category สูงๆ เท่านั้น จุดด้อยสำหรับเราคือ ห้อง Silksand ห้องน้ำเล็กไปนิด ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ ส่วนห้อง Oceanbed Pool Villa ด้วยความที่รั้วห้องเป็นไม้ไผ่ ทำให้รู้สึกไม่ส่วนตัวเท่าไหร่ แม้ว่ามองจากข้างนอกมาจะไม่เห็นข้างในได้ถนัดนัก แต่มันก็มีความรู้สึกไม่สบายใจอยู่นิดๆ
เรื่องอาหารเราค่อนข้างชอบเลยล่ะ อาหารไทยดี อาหารฝรั่งก็ดี ขนมก็ดี ตอบโจทย์การอยากมาพักผ่อนแบบทิ้งร่าง ไม่ต้องออกไปเที่ยวไหน กินๆ นอนๆ อยู่ในโรงแรมนี่แหละ ที่สำคัญคือมั่นใจได้ในเรื่องมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพราะที่นี่ ได้รับมาตรฐาน SHA ด้วย
Putahracsa Hua Hin Resort
อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โทร. 032 531 470
LINE ID : @Putahracsa
** สนใจลงรีวิวในเว็บไซต์ letscheckinmag.com ติดต่อได้ทางอีเมล letscheckinmag@gmail.com หรือทาง Facebook : Let’s Check in เรื่องกิน เรื่องเที่ยว
*** บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ letscheckinmag.com กรุณาสนับสนุนทีมงานด้วยการแชร์ link กลับมายังเว็บ letscheckinmag.com เท่านั้น ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ หรือดัดแปลงส่วนใดไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด