ภิรมย์เวียงพิงค์ : ทริปเที่ยว เพชรบุรี-หัวหิน-เชียงใหม่
อยู่เพชรบุรี หัวหิน นึกอยากไปกินอาหารเหนือที่เชียงใหม่ก็ย่อมได้ จัดเวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สัก 3 วัน 2 คืน บินตรงจากหัวหินใช้เวลาแค่ราวๆ 1.20 ชั่วโมง ก็ได้ไปเดินเฉิดฉายที่เจียงใหม่แล้วเจ้าาาา
การเดินทาง เพชรบุรี-หัวหิน-เชียงใหม่
จากเพชรบุรี หัวหิน เดินทางไปเชียงใหม่สะดวกที่สุดก็คือไฟล์ท AirAsia มีบินเส้นทาง หัวหิน-เชียงใหม่ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ อาทิตย์ หัวหิน-เชียงใหม่ 16:05 – 17:20 น. และ เชียงใหม่-หัวหิน 14:15 – 15:35 น. ราคาจะขึ้นอยู่กับวันเดินทาง สามารถเช็คได้ที่ >> AirAsia เราขับรถไปจากเพชรบุรี เอารถไปฝากจอดไว้ที่สนามบินหัวหิน ค่าจอดคืนละ 100 บาท เข้าไปจอดก่อนได้เลยแล้วชำระค่าจอดได้ที่เคาน์เตอร์ด้านในสนามบิน
1/ เอื้องคำสาย
ทริปนี้เราออกจากหัวหินช่วงเย็นวันศุกร์ ไปถึงเชียงใหม่เวลาห้าโมงครึ่ง เริ่มทริปกันด้วยอาหารเหนือชุดใหญ่ที่ร้าน เอื้องคำสาย อาหารเหนือ Euang Kam Sai Northern Thai Restaurant อยู่ในศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ ใกล้สนามบินแค่นิดเดียว จุดเด่นคืออาหารเหนือสูตรประจำตระกูลของเจ้าของร้านที่สืบทอดกันมารวมแล้วน่าจะเป็น 100 ปี
2/ คลองแม่ข่า
อิ่มแล้วเราไปเดินย่อยกันต่อที่ คลองแม่ข่า ที่เที่ยวสุดฮิตที่เรียกกันว่า โอตารุเชียงใหม่ ด้วยบรรยากาศทิวทัศน์ที่ให้ฟิลญี่ปุ่นกรุบกริบ จริงๆ เราเคยมาเที่ยวครั้งนึงเมื่องช่วงปลายปีที่แล้ว มารอบนี้มีของกิน ของใช้ ของฝาก ร้านนั่งชิล เพิ่มขึ้นเยอะเลย
3/ วัดป่าดาราภิรมย์
เริ่มโปรแกรมวันที่สองกันที่ วัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวงชั้นตรีที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมแบบล้านนา มีอายุกว่า 100 ปี มีจุดน่าสนใจน่าชมอยู่หลายอย่าง พระวิหารหอคำหลวง, มณฑปพระจุฬามณีศรีบรมธาตุ (หอแก้ว), ท้าวเวสสุวรรณ, มณฑปพระเจ้าทันใจ
4/ พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์
พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม ด้านในจัดแสดงประวัติความเป็นมา สิ่งของเครื่องใช้อันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และงานศิลปวัฒนธรรมล้านนาในยุคของเจ้าดารารัศมี
5/ สวนทูนอิน
มื้อกลางวันสไตล์ Farm to Table ที่ Tune In garden สวนทูนอิน ร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลินไกด์ 2023 ที่นี่เป็นบ้านของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ พญาอินทรีแห่งสวนอักษร ถ่ายทอดอาหารสูตรอร่อยโดย ป้าติ๋ม สุมาลี วงษ์สวรรค์ ผู้เป็นภรรยา มีเมนูโปรดที่เราไม่ได้กินมานานอย่าง “แกงส้มเปลือกแตงโม”
6/ Kalm Village
Kalm Village คอมมูนิตี้แห่งใหม่ที่ผสานงานศิลปวัฒนธรรมเข้ากับความร่วมสมัย ในโครงการมีหลายโซนหลายส่วน ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ แกลเลอรี่ โซนขายสินค้าที่ทำร่วมกับชุมชน ซึ่งทั้งหมดอยู่บนความตั้งใจในการสืบสานต่อยอดภูมิปัญญาและวัฒนธรรม บอกเลยว่าน่าสนใจ เดินเพลินทุกโซนเลย
7/ ภิรมย์นาวา ล่องเรือแม่น้ำปิง
ช่วงบ่ายแก่ๆ เราไปเปลี่ยนชุดล้านนายุคเจ้าดารารัศมี ให้เข้ากับธีมภิรมย์นาวา ก่อนไปที่ Cross Chiang Mai Riverside เพื่อลงเรือล่องแม่น้ำปิงพร้อมจิบ Afternoon Tea เก๋ๆ
8/ Chef’s Table at Oxygen Dining Room
หลังจากล่องเรือแล้วเราก็ยังอยู่กันที่ Cross Chiang Mai Riverside เพื่อต่อด้วยมื้อเย็น Chef’s Table ที่ Oxygen Dining Room อีกหนึ่งร้านอร่อยบรรยากาศดีที่ได้รับการแนะนำในมิชลินไกด์
9/ วัดพระธาตุดอยคำ
วันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับยังมีเวลาให้เที่ยวต่อได้อีกครึ่งวัน เริ่มกันที่ วัดพระธาตุดอยคำ วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ที่คาดว่ามีอายุถึง 1300 ปี มีจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่มุมสูง และที่พลาดไม่ได้สำหรับสายมู ต้องไปสักการะหลวงพ่อทันใจ ที่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ขอปุ๊บได้ปั๊บ ทันใจจริง
10/ วัดต้นเกว๋น
วัดต้นเกว๋น วัดที่เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบอนุรักษ์ศิลปกรรมล้านนา มีสถาปัตยกรรมสวยๆ ให้ได้ชมหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นวิหาร อาคารจตุรมุข หอคต บางคนอาจจะรู้สึกคุ้นตากับวัดนี้ ก็เพราะว่าเป็นสถานที่ถ่ายละครหลายเรื่องเลย
11/ สีมันตรารีสอร์ท
จุดเช็คอินสุดท้ายของทริปนี้ เฮือนสีมันตรา อีกหนึ่งสถานที่ถ่ายทำละครกลิ่นกาสะลอง บ้านโบราณแบบล้านนาที่มีอายุถึงร้อยกว่าปี แต่ยังได้รับการดูแลอย่างดี สวยไปหมดทุกมุม เดินชมบ้านแล้วก็ฝากท้องมื้อกลางวันกันที่นี่เลย ปิดท้ายทริปกันด้วยอาหารเหนือแบบขันโตก อร่อยและได้บรรยากาศแบบล้านนาสุดๆ
12/ Syn Boutique Hotel
สำหรับที่พักในทริปนี้ทั้งสองคืนเราพักกันที่ Syn Boutique Hotel เป็นโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ของเชียงใหม่ โรงแรมมีสระว่ายน้ำ ห้องพักสวย เตียงใหญ่เครื่องนอนดี นอนสบายมากๆ อาหารเช้าเป็นบุฟเฟต์ที่หลากหลาย มีอาหารเหนืออร่อยๆ ด้วย
ขอขอบคุณ ททท.สำนักงานเพชรบุรี TAT Phetchaburi และ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ – TAT Chiang Mai สำหรับทริปนี้ที่ทำให้รู้สึกว่าเชียงใหม่ที่อยู่ไกลก็เหมือนอยู่ใกล้แค่นิดเดียว มีเวลาเที่ยวสามวันก็สนุกสนานเต็มอิ่มได้เหมือนกัน เชิญชวนไปเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ
** สนใจลงรีวิวในเว็บไซต์ letscheckinmag.com ติดต่อได้ทางอีเมล letscheckinmag@gmail.com หรือทาง Facebook : Let’s Check in เรื่องกิน เรื่องเที่ยว
*** บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ letscheckinmag.com กรุณาสนับสนุนทีมงานด้วยการแชร์ link กลับมายังเว็บ letscheckinmag.com เท่านั้น ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ หรือดัดแปลงส่วนใดไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด