Hyatt Regency Hua Hin
ถ้าพูดถึงโรงแรมริมทะเลที่หัวหิน จะว่าไปก็มีอยู่หลายแห่งทีเดียวล่ะ แต่ถ้าพูดถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว ริมทะเลหัวหิน ที่มีหน้าหาดยาวที่สุดแล้วล่ะก็ ต้องยกให้ Hyatt Regency Hua Hin ด้วยพื้นที่ในบริเวณโรงแรมที่กว้างขวางมากทำให้ที่นี่มีหน้าหาดยาวราวสามร้อยเมตร มีห้องพักทั้งหมดสองร้อยกว่าห้อง มีสระว่ายน้ำถึงสามสระ มีฟิตเนสที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง มีสนามเทนนิส มี Children’s Playground มีสปาที่ว่ากันว่าดีงามที่สุดแห่งหนึ่งในหัวหิน และยังมีอีกมากมายหลายอย่างที่ทำให้รู้สึกว่า เวลาสองวันหนึ่งคืนที่นี่ช่างผ่านไปไวเหลือเกิน ถ้าอยากรู้ว่าที่นี่ดีงามจริงมั้ย ตามมาอ่านรีวิวกันค่ะ
สวย คลาสสิค ร่มรื่น
Hyatt Regency Hua Hin เปิดมาแล้ว 17 ปี เป็นตัวเลขที่อาจจะทำให้เกิดคำถามว่า โรงแรมจะเก่าแล้วรึยังนะ? ถ้าพูดถึงเรื่องการออกแบบตกแต่งโดยรวม ตัวโรงแรมมีกลิ่นอายของความเป็นไทยอยู่มาก มันอาจจะดูไม่ทันสมัย แต่ก็ไม่ใช่ความเก่า ในทางกลับกันก็คือความสวยคลาสสิคที่หาได้ยากในโรงแรมใหม่ๆ อีกหนึ่งข้อดีของโรงแรมที่เปิดมานานคือ ความร่มรื่นจากพื้นที่สีเขียว ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดีมานาน ช่วยเสริมบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายมากๆ เลยล่ะ
ห้องพักใหม่ ติดสระว่ายน้ำ
เช็คอินเรียบร้อยแล้วมาดูห้องพักกัน เราเข้าพักห้อง Deluxe Pool Access ห้องในโซนนี้เพิ่งปรับปรุงใหม่เมื่อต้นปี 2020 นี่เอง เห็นได้ชัดว่าการตกแต่งในห้องดูทันสมัยขึ้น เป็นสไตล์ Thai Comtemporary ทุกสิ่งอย่างในห้องคือใหม่มาก ฉะนั้นที่ถามว่าเก่ามั้ย ตอบเลยว่าไม่เก่าค่ะ แถมห้อง Deluxe Pool Access ที่เราพักยังเป็นห้องประเภทใหม่อีกด้วย คือเมื่อก่อนโรงแรมจะไม่มีห้องแบบ Pool Access ที่ติดสระแบบนี้ เรียกได้ว่าใหม่กิ๊กจริงๆ
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก ก็มีทุกอย่างตามที่โรงแรม 5 ดาวควรมี ทีวีขนาด 65 นิ้ว ใหญ่มากกก มินิบาร์ ชา/กาแฟ ตู้เซฟ เตารีด สบู่ แชมพู โลชั่น และบางอย่างที่อาจจะไม่ได้เตรียมไว้ให้ในห้องพักแต่สามารถขอเพิ่มได้ อย่างเช่น แปรงสีฟัน ฯลฯ
จิบน้ำชายามบ่าย สบายๆ ริมทะเล
ถ้าได้มาพักที่ Hyatt Regency Hua Hin ช่วงบ่ายๆ แนะนำให้ไปจิบน้ำชายามบ่ายที่ McFarland House บ้านไม้เก่าอายุกว่า 100 ปี ที่นำมาดัดแปลงเป็นห้องอาหารริมทะเลบรรยากาศดี ไฮไลท์ของที่นี่คือ Afternoon Tea เซ็ตใหญ่จัดเต็มทั้งคาวหวาน ผสมผสานทั้งตะวันตกและตะวันออก คือมีทั้งของว่าง ขนม แบบฝรั่งและแบบไทยๆ เป็นของคาว 6 ของหวาน 4 อย่างละสองชิ้น แล้วยังมีสโคนอีกสี่ชิ้นด้วยจ้า ชุดใหญ่คุ้มมาก บอกเลยว่าอร่อยทุกอย่างจริงๆ ขนมก็ไม่หวานมากจนเกินไป รสชาติกำลังดี ส่วนเครื่องดื่มที่รวมในเซ็ตก็มีให้เลือกหลากหลายทั้ง ชาร้อน, ชาไข่มุก (ชาไทย มัทฉะ ชากุหลาบ) และ กาแฟ Cold Brew Tonic เย็นชื่นใจ
Afternoon Tea @ McFarland House
⏰ 14.00-17.30 น. (ยกเว้นวันอาทิตย์)
? ราคา 750++ บาท ต่อเซ็ต สำหรับ 2 ท่าน
☎️ 032 521 234
? แผนที่ McFarland House
สำหรับใครที่ไม่ได้เข้าพักที่นี่ ก็เข้ามานั่งชิลจิบน้ำชายามบ่ายที่ McFarland House ได้เหมือนกัน ขนมอร่อยบรรยากาศดีแบบนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด
สระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อมสไลเดอร์
อิ่มอร่อยกับ afternoon tea ชุดใหญ่แล้วก็เดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศริมหาดและสระว่ายน้ำโรงแรมสักหน่อย สระว่ายน้ำหลักของ Hyatt Regency Hua Hin จัดว่าใหญ่มากทีเดียว ช่วงที่กว้างที่สุดของสระจะอยู่แถวริมทะเล ว่ายน้ำ อาบแดด ชมวิวได้เพลินๆ แล้วตัวสระยังเชื่อมต่อเป็นลากูนไปตรงหลังห้อง Deluxe Pool Access ด้วย จุดเด่นของสระว่ายน้ำที่นี่ นอกจากขนาดใหญ่แล้ว ยังมีสไลเดอร์ยาว 22 เมตร ให้เล่นด้วยจ้า
อาหารอิตาเลี่ยน สไตล์ Home Cooked
มื้อเย็นไม่ต้องออกไปไหน เพราะที่นี่มีทั้งห้องอาหารไทยและห้องอาหารยุโรปให้เลือก เราดินเนอร์กันที่ Figs Restaurant ตัวห้องอาหารนี้เพิ่งปรับปรุงใหม่ และได้เชฟชาวอิตาเลี่ยนมาสร้างสรรค์เมนูอาหารอิตาเลี่ยนสไตล์ Home Cooked จากแคว้นปุลยาทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นอาหารทะเลแบบอิตาเลี่ยนที่เน้นความสดของวัตถุดิบ พิซซ่านาโปลี พาสต้าเส้นสด และอีกหลายเมนู signature ใครที่เป็นแฟนอาหารอิตาเลี่ยน บอกเลยว่าต้องลอง
บรรยากาศยามเช้า ริมทะเลหัวหิน
ทุกครั้งที่ได้มาพักโรงแรมริมทะเลหัวหิน กิจกรรมที่ขาดไม่ได้คือตื่นมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเล เอาจริงๆ ก็เห็นภาพแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งก็ยังมีความสวยงามแตกต่าง ทำให้ยอมขุดตัวเองขึ้นมาจากที่นอนนุ่มๆ เพื่อมาชมภาพบรรยากาศแบบนี้แหละ
บุฟเฟต์อาหารเช้า อร่อย หลากหลาย
อาหารเช้าที่ Hyatt Regency Hua Hin ไม่ทำให้ผิดหวัง อาหารเยอะ หลากหลาย ตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว อาหารไทยมีไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ สัก 4-5 อย่าง แล้วก็มีก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้ม น้ำเต้าหู้ ติ่มซำ ส่วนอาหารฝรั่งก็ครบครันค่ะ ไข่ต่างๆ ไส้กรอก เบค่อน สลัด โคลด์คัท ชีส ขนมปัง ขนมอบ มีแบบ Gluten Free ด้วย โยเกิร์ต ซีเรียล นม น้ำผลไม้ เอาเป็นว่าชอบแนวไหนมีให้เลือกหมดทุกแนว
The Barai Spa
มาถึง Hyatt Regency Hua Hin ทั้งที่ สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือทำสปาที่ The Barai เกริ่นกันสักหน่อยว่า The Barai นั้นเป็นโซนหนึ่งของไฮแอทหัวหิน มีห้องพัก 8 ห้อง เน้นความสงบผ่อนคลายสำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย ไฮไลท์ของโซนนี้คือสปาที่มีรวมให้สำหรับลูกค้าที่เข้าพักที่ The Barai ด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่ได้เข้าพัก ก็สามารถเข้ามาใช้บริการสปาอย่างเดียวได้เหมือนกัน ว่ากันว่า สปาที่นี่นอกจากจะออกแบบได้สวยมากแล้ว ยังเป็นสปาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในหัวหินด้วย ซึ่งหลังจากได้ลองใช้บริการ Aromatherapy Massage ไปหนึ่งชั่วโมง ก็ยอมรับเลยว่าสปานี่ดีงามสมคำร่ำลือจริงๆ ถ้าอยากอ่านรีวิวสปาแบบเต็มๆ เข้าไปดูได้ที่ Let’s Check in The Barai Spa
สรุป
สรุปภาพรวมกันอีกสักรอบ Hyatt Regency Hua Hin เป็นโรงแรม 5 ดาว ริมทะเลหัวหินโซนเขาตะเกียบ ทำเลดีอยู่ใกล้ Cicada Market เรามองว่าที่นี่เหมาะกับเหมาะกับทุกกลุ่ม ด้วยห้องพักที่มีหลายแบบ โซนหลักมีความเป็น Family Resort สูงมาก เหมาะกับครอบครัว โซน Regency Club ก็เหมาะกับคนที่ต้องการความพิเศษขึ้นมาอีกสักหน่อย เพราะได้รับ benefit ในส่วนของคลับ และโซน The Barai ก็จะเหมาะกับคู่รัก คนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ต้องการการพักผ่อนแบบ health retreat
ความรู้สึกจากการเข้าพัก
สำหรับเราครั้งนี้เข้าพักในโซนหลัก ห้องพักเพิ่งปรับปรุงใหม่ สวย ฟังก์ชั่นดี ขนาดห้อง 38 ตร.ม. ดูตัวเลขเหมือนจะเล็ก แต่การออกแบบทำได้ดี แล้วยังมีพื้นที่ด้านหลังที่เชื่อมกับสระว่ายน้ำ มีโต๊ะนั่งเล่น มีเตียงนอนอาบแดด ทำให้รู้สึกว่ามีพื้นที่ใช้สอยเยอะทีเดียว ไม่อึดอัด ทีวีจอใหญ่มากกกก เครื่องนอนนุ่มสบาย อ่างอาบน้ำใหญ่ เรียกว่าทุกอย่างในห้องพักคือดีเลยค่ะ ส่วนอาหารเช้าก็หลากหลายและคุณภาพดีตามมาตรฐาน
เราพักที่นี่ 2 วัน 1 คืน รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก เพราะว่าที่นี่มีไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดหลายอย่าง ทั้ง Afternoon Tea สุดคุ้ม บรรยากาศดีที่ McFarland House ทั้งสปาเริ่ดๆ ที่ The Barai ทั้งสระว่ายน้ำและสไลเดอร์น่าเล่น แล้วยังมีบรรยากาศชวนชิลริมทะเลอีก แนะนำว่าถ้าใครอยากมาพักที่นี่ จัดไปสัก 3 วัน 2 คืน จะดีงามที่สุดค่ะ 🙂
Hyatt Regency Hua Hin
? 032 521 234
Facebook : @HyattRegencyHuaHin
Website : www.hyattregencyhuahin.com
เช็คราคา จองที่พัก Hyatt Regency Hua Hin
** สนใจลงรีวิวในเว็บไซต์ letscheckinmag.com ติดต่อได้ทางอีเมล letscheckinmag@gmail.com หรือทาง Facebook : Let’s Check in เรื่องกิน เรื่องเที่ยว
*** บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ letscheckinmag.com กรุณาสนับสนุนทีมงานด้วยการแชร์ link กลับมายังเว็บ letscheckinmag.com เท่านั้น ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ หรือดัดแปลงส่วนใดไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด