ทริปดูบรูด้า ณ ท้องทะเลไทย
เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกปี ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะออกเรือล่องไปในทะเลอ่าวไทยตอนบน เพื่อไปชมสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่มีชื่อเรียกว่า “วาฬบรูด้า” นี่ไม่ใช่ทริปดูบรูด้าครั้งแรกของเรา ทริปแรกเกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนเป็นการเดินทางออกเรือไปกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เราหวังว่าจะได้ภาพบรูด้าอ้าปากสวยๆ แบบที่เคยเห็นคนอื่นเขาถ่ายกัน แต่ปรากฏว่าวันนั้นสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทะเลมีคลื่นแรงมาก มากเสียจนหลายคนเมาเรือโอ้กอ้ากให้อาหารปลากันเป็นแถว เราได้เจอวาฬบรูด้าตั้งแต่ทริปแรกแต่ไม่ได้ภาพกลับมาอย่างที่ต้องการ เพราะความที่คลื่นแรงมากเจ้าบรูด้าเลยได้แต่ว่ายไปมาไม่โชว์ตัวให้เห็นชัดๆ เห็นก็แต่ครีบหลังเท่านั้นเอง
แม้จะค่อนข้างเข็ดจากทริปแรก เพราะดันไปเจอคลื่นแรงกลางทะเล แต่ปีถัดมาเราก็ยังมีทริปดูบรูด้าครั้งที่สองจนได้ ในเมื่อยังไม่ได้ภาพก็ต้องพยายามให้ถึงที่สุดล่ะน่า ในครั้งนี้อากาศเป็นใจมาก ทะเลเรียบ ฟ้าใส แต่บรูด้าก็ทำให้ผิดหวังอีกจนได้ เอาแต่ว่ายโชว์ครีบหลังอย่างเดียวเหมือนเดิม รูปที่ถ่ายมาไม่กล้าเอามาอวดใครเลย ไปดูบรูด้าทั้งทีได้แต่รูปครีบหลัง จนมาถึงปีนี้กับทริปที่สาม เราร่วมทริปไปกับคุณกมล ร้านอาหารแม่จินดา บางตะบูน เหมือนปีก่อน นัดหมายกันที่ร้านริมทะเล ปากอ่าวบางตะบูน
เรือที่พาเราล่องสู่อ่าวไทยในวันนี้ลำค่อนข้างใหญ่ รับคนได้ 15 คน มีห้องน้ำ มีชั้นบนสำหรับใครที่ไม่กลัวแดดและต้องการมุมกว้างๆ เพื่อถ่ายรูปถนัดๆ ข้อแนะนำสำหรับคนที่จะออกทริปดูบรูด้า ควรใส่เสื้อแขนยาว ขายาว เพื่อกันแดด ทาครีมกันแดดมาให้พร้อม พกหมวกหรือแว่นกันแดดมาด้วยยิ่งดี เพราะเราจะอยู่บนเรือกันทั้งวัน แม้ว่าเรือจะมีหลังคาแต่ว่าแดดก็เข้าถึงเราได้ตลอดทริป ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ จบทริปกลับมาหน้าดำก็เคยมาแล้ว สำหรับใครที่เมาเรือ อยากแนะนำว่าไม่ต้องมา (ฮาาาา) แต่ถ้าอยากมาจริงๆ ทานยากันเมาเรือก่อนก็ได้ ยาดม ลูกอม พกมาให้พร้อมถ้ารู้สึกเริ่มวิงเวียนสิ่งเหล่านี้จะมีค่ากับชีวิตมาก มันช่วยได้จริงๆ
เรือออกราวแปดโมงเช้า ระหว่างทางช่วงแรกๆ จะมีกระเตงของชาวประมงอยู่เยอะเลย ซึ่งกระเตงเหล่านี้ก็ปลูกเอาไว้เพื่อเฝ้าฟาร์มหอยแครงซึ่งมีอยู่มากมายแถวบางตะบูน บรรยากาศยามเช้ากับวิถีท้องถิ่นแบบนี้ ถ่ายรูปกันเพลินเลยเชียวล่ะ
นั่งเรือไปได้สักสามชั่วโมงกว่า ราว 11.30 เริ่มรู้สึกว่าใกล้จะได้เจอเจ้าบรูด้าแล้วล่ะ เพราะว่าเริ่มเห็นนกนางนวลบินอยู่เต็มไปหมด มาบินตามเรือก็เยอะ ด้วยความที่เป็นทริปที่สามแล้วทำให้พอรู้ว่านกนางนวลเหล่านี้มักจะมาคอยกินปลาเวลาที่บรูด้าอ้าปากเพื่อกินปลา เรียกว่าแบ่งๆ กันกิน จากนั้นไม่นานเราก็ได้เจอเจ้าบรูด้าแล้ว
ในที่สุดภาพที่เรารอคอยมาสามปีก็เกิดขึ้น บรูด้าอ้าปากแล้ว สองตัวเลยด้วย คุณลุงคนขับเรือบอกว่าเจ้าสองตัวนี้เป็นแม่ลูกกัน ตัวแม่ชื่อแม่กันยา อ้าปากกินปลาเป็นคู่แบบนี้ รีบกดชัตเตอร์กันรัวๆ เลย
กินปลากันจนอิ่มหนำแล้วเจ้าสองแม่ลูกนี้ก็ว่ายน้ำหายไป ระหว่างวิ่งเรือหาบรูด้าก็ได้โอกาสพักกินข้าว มื้อกลางวันเป็นข้าวผัดปูร้านอาหารแม่จินดาบางตะบูน ได้นั่งกินปูอยู่กลางทะเลแบบนี้มันรู้สึกอร่อยเป็นพิเศษจังเลย
กินข้าวเสร็จก็เป็นจังหวะที่ได้เจอบรูด้าอีกตัวพอดี คุณลุงคนขับเรือแกเห็นก่อนใคร ว่าเจ้าบรูด้าตัวนี้กำลังว่ายวนอยู่ใกล้ๆ เรืออีกลำ แกรีบตะโกนบอกทุกคนว่า ตัวนี้ชื่อเจ้าศรีสุข ใครที่ใช้กล้องใหญ่เลนส์ซูมเก็บกล้องไปเลยนะ หยิบมือถือมาถ่ายได้เลย เจ้าศรีสุขชอบเข้ามาเล่นเรือ
เล่นเรือ? ได้ยินแล้วก็งงนะ ว่าเขาจะมาเล่นเรือแบบไหน พอได้เข้าไปจอดเรืออยู่ใกล้ๆ ถึงได้เห็นว่าเจ้าศรีสุขเล่นเรือยังไง เขาจะเข้ามาว่ายอยู่ใกล้เรือมากๆ ว่ายอยู่ข้างๆ เรือ รอบๆ เรือ และก็มีว่ายมุดเข้าใต้ท้องเรือด้วยแน่ะ เจ้าศรีสุขจัดโชว์ชุดใหญ่แบบใกล้ชิดชนิดที่เรียกได้ว่าฟินกันไปทั้งลำ เพราะหลายคนที่ร่วมทริปมากับเราไม่ได้มีกล้องหรือเลนส์ใหญ่ๆ มีแค่กล้องมือถือเท่านั้น พอศรีสุขเข้ามาว่ายวนใกล้เรือแบบนี้ก็เรียกคะแนนนิยมจากชาวคณะไปได้มาก
ถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้วราวบ่ายสองก็เริ่มมุ่งหน้ากลับเข้าฝั่ง ถึงบางตะบูนราวสี่โมงครึ่ง สำหรับทริปนี้มีค่าใช้จ่ายคนละ 800 บาท เป็นค่าเรือรวมอาหารกลางวัน และน้ำดื่มเย็นๆ ตลอดทริป เป็นทริปที่อิ่มอกอิ่มใจไปตามๆ กัน บอกตรงๆ เราไม่เคยคิดว่าบรูด้าน่ารัก อาจด้วยความที่เป็นสัตว์ใหญ่และเข้าถึงได้ยากเพราะอยู่ในน้ำ แต่ครั้งนี้พอได้เจอเจ้าศรีสุขที่เข้ามาว่ายเล่นใกล้ๆ ทำให้รู้สึกว่าบรูด้ามีความน่ารัก ขี้เล่นไม่น้อยเลย อยากชวนให้ทุกคนหาโอกาสมาออกเรือเที่ยวชมความอุดมสมบูรณ์ของอ่าวไทย รวมไปถึงความน่ารักของบรูด้ากว่า 50 ตัวในท้องทะเลไทยบ้านเรากันค่ะ
ใครที่สนใจล่องเรือชมวาฬบรูด้า มีจุดขึ้นเรือในจังหวัดเพชรบุรีได้ที่หาดเจ้าสำราญ ท่าเรือแหลมผักเบี้ย อ่าวบางตะบูน สามารถติดต่อเช่าเรือได้ดังนี้
1. ท่าเรือแหลมผักเบี้ย
– มีเรือหลายลำ โดยขึ้นเรือก่อน 08:00น.
– ราคาเหมา 5,000 บาท/ เที่ยว (10 คน) โดยต้องจองล่วงหน้า (อัตรานี้รวมน้ำดื่มในเรือ)
– มีบริการสั่งอาหารกล่อง (เลือกจ่ายเพิ่มได้)
– มีบริการประกันอุบัติเหตุ เหมาลำ 200 บาท (เลือกจ่ายเพิ่มได้)
ติดต่อจองเรือ ท่าเรือแหลมผักเบี้ย
– คุณสาว 092-713-9730
– คุณมนู 081-856-4939
– Facebook : อโนชา อยู่ทอง
– Line ID : SAV73
2. ท่าเรือหาดเจ้าสำราญ
– มีเรือหลายลำ เป็นเรือประมงของชาวบ้าน โดยขึ้นเรือเวลา 09:00น.
– ราคาเหมา 5,000 บาท/ เที่ยว (10 คน) โดยต้องจองล่วงหน้า
– รวมเสื้อชูชีพ
– ไม่มีบริการอาหาร
– ไม่มีบริการน้ำดื่ม
– หากมาไม่ครบ 10 ท่าน ไม่ประสงค์เหมาลำ และ มีความประสงค์จะร่วมลงเรือกับคณะอื่นให้ติดต่อผู้ประสานงาน
ติดต่อจองเรือ ท่าเรือหาดเจ้าสำราญ
– คุณชมพู่ 090-798-7042 (ผู้ประสานงาน)
– Line ID : CHOMIIPU
3. ท่าเรือบางตะบูน
– มีเรือออกวันละ 1 เที่ยว โดยขึ้นเรือเวลา 08:00น.
– ราคาเหมา 6,000 บาท/ เที่ยว (15 คน) โดยต้องจองล่วงหน้า (อัตรานี้รวมน้ำแข็งครึ่งถัง)
-ไม่รวมน้ำดื่ม สามารถซื้อได้บริเวณท่าเรือ
– มีบริการสั่งอาหารกล่อง (เลือกจ่ายเพิ่มได้)
ติดต่อจองเรือ ท่าเรือบางตะบูน
– คุณจำรูญ 032-581-233
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เทศบาลตำบลหาดเจ้าสำราญ
032-478-555-6
http://www.hadchaosamran.go.th/
ททท.สำนักงานเพชรบุรี
032-471-005-6
Line@ : @tatphet (มีเครื่องหมาย @)
Facebook : TAT Phetchaburi
**คำแนะนำเพิ่มเติม**
1. ควรจองเรือก่อนล่วงหน้า ก่อนอีกเดินทาง 2-3 วัน
2. ควรตรวจเช็คสภาพอากาศ และคลื่นลมก่อนออกเดินทาง หากกรณีที่มีคลื่นลมแรง หรือสภาพอากาศไม่ปกติ จะไม่สามารถออกเรือได้เด็ดขาด
3. การล่องเรือดูวาฬบรูด้า ไม่สามารถกำหนดเวลา จุดวาฬพบได้ และการพบเห็นวาฬนั้นขึ้นอยู่สภาพอากาศ คลื่น ลม และอาหารของวาฬ และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ประกอบด้วย
4. อุปกรณ์ สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ต้องเตรียม : หมวก / เสื้อคลุมกันแดด / ครีมกันแดด / อุปกรณ์กันแดด / ยารักษาโรคประจำตัว
ขอบคุณข้อมูลจุดลงเรือจาก ททท. สำนักงานเพชรบุรี